ออกทริปทั้งที นอกจากกล้องตัวใหญ่แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ควรมีติดไว้เลยก็คือ กล้องวิดีโอตัวเล็ก พกพาง่าย กันสั่นเทพ พร้อมใช้ทุกสถานการณ์ ช่วยให้การท่องเที่ยวของเราสมบูรณ์ยิ่งขึ้นด้วยภาพถ่ายและวิดีโอในมุมมองที่หลากหลาย

ในปัจจุบันก็มีกล้องตัวเล็ก กันสั่นเทพๆออกมาขายกันเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็น Action Camera จากค่ายดังอย่าง GoPro และ Gimbal Camera จากค่าย DJI วันนี้เราก็เลยหยิบกล้องรุ่นล่าสุดจากทั้ง 2 ค่ายมาเทียบกันไปเลย

📷 GoPro Hero 9

– Action Camera ขนาดเล็ก แข็งแรง ทนทาน ลุยได้ทุกสถานการณ์

📷 DJI Pocket 2

– กล้องวิดีโอขนาดเล็ก พกพาง่าย กันสั่นทรงพลังด้วยกิมบอล 3 แกน ตอบโจทย์ชาวครีเอเตอร์

Overview

ขนาด + การจับถือ

ขนาด + การจับถือ

– Gopro Hero 9: 70*55*30 mm น้ำหนัก 158 g

– DJI Pocket 2: 124.7*38.1*30 mm น้ำหนัก 117 g

หากพูดถึงในเรื่องขนาด ทั้งสองตัวมีจุดเด่นที่เหมือนกันคือ มีขนาดเล็ก พกพาง่าย น้ำหนักเบา แต่จะแตกต่างกันที่รูปทรง

👉🏼 GoPro 9 มีลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความสมมาตร ฐานกว้าง เหลี่ยมมุมไม่ซับซ้อน  สะดวกต่อการติด/ยึดกับอุปกรณ์ต่างๆ แต่อาจจับถือด้วยมือเปล่าไม่สะดวก ควรใช้ Handler ช่วยในส่วนนี้

👉🏼 DJI Pocket 2 มีลักษณะเป็นแท่ง มีความสูง เรียว สะดวกต่อการจับถือด้วยมือเปล่า สามารถยึดติดกับอุปกรณ์อื่นได้ แต่ด้วยฐานที่แคบกว่าและความสูง จึงอาจพบปัญหาเรื่องบาลานซ์

การควบคุม

การควบคุม

👉🏼 Gopro Hero 9: จอใหญ่ เน้นสั่งการผ่านทัชกรีน

– ควบคุมสั่งการผ่านหน้าจอทัชกรีน(จอหลัง), ปุ่ม Shutter และปุ่ม Power

– รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาอังกฤษ (Voice Control)

👉🏼 DJI Pocket 2: จอเล็ก แต่ใช้งานง่ายด้วย Joystick

– ควบคุมสั่งการผ่านหน้าจอทัชกรีน, Joystick, ปุ่มฟังก์ชั่น, ปุ่ม Shutter และปุ่ม Power

ความละเอียดภาพและวิดีโอ

ความละเอียดภาพและวิดีโอ

👉🏼 GoPro Hero 9:

– ความละเอียดภาพนิ่งสูงสุด 20 MP

– ความละเอียดวิดีโอสูงสุด 5K 30

👉🏼 DJI Pocket 2:

– ความละเอียดภาพนิ่งสูงสุด 64 MP

– ความละเอียดวิดีโอสูงสุด 4K 60

Lens

เลนส์

ว่ากันด้วยเรื่องของระยะเลนส์ บอกเลยว่าใครต้องการเลนส์ที่ให้มุมมองกว้างมากๆ ปรับได้หลายระยะก็แนะนำให้เป็น GoPro แต่ถ้าใครไม่ได้ซีเรียสเรื่องความกว้างมากนัก อยากได้แค่น้ำหนักเบา ถือสะดวก ถ่าย Selfie แล้วภาพไม่อึดอัด DJI Pocket 2 ก็ตอบโจทย์ได้ดี

👉🏼 GoPro Hero 9: เลนส์ปรับได้ 4 ระยะได้แก่

– Narrow 27 mm

– Linear 19-39 mm

– Wide 16-34 mm

– Superview 16 mm

👉🏼 DJI Pocket 2: มีระยะเลนส์เดียวคือ เลนส์ 20mm f1.8 (มีเลนส์ wide angle 15 mm มาให้ในชุด Creator Combo)

Stabilization

Stabilization

ในเรื่องของกันสั่นก็ไม่น้อยหน้ากันเลย ถือว่าทำได้ดีทั้งคู่ ใครสายลุย Extremeสุดๆ ไม่สามารถคอนโทรลกล้องเองได้ตลอดเวลา ฟังก์ชั่น Horizon Leveling ใน GoPro 9 ก็หวังพึ่งได้แน่นอน และสำหรับใครที่ใช้งานทั่วไป เดินถือสบายๆ ไม่ต้องเกร็งแขนให้เมื่อย แต่ได้ภาพสมูทเหมือนใช้กิมบอล DJI Pocket 2 ตัวจิ๋วตัวนี้ก็เหมาะเลยทีเดียว

👉🏼 GoPro Hero 9: Software Stabilization (Hypersmooth 3.0) + Horizon Leveling กันสั่นคงเส้นขอบฟ้า หมุนแค่ไหนก็ยังนิ่ง

👉🏼 DJI Pocket 2: Software Stabilization + 3 Axis Gimbal กล้องกิมบอล ผสานกำลังกันสั่นซอฟท์แวร์ และกิมบอล 3 แกน

Audio

Audio

พูดถึงเรื่องเสียงกันบ้าง ในเรื่องนี้ DJI Pocket 2 จะได้เปรียบด้วยระบบเสียงแบบ Matrix Stereo ที่ประกอบไปด้วยไมค์ 4 ตัว รองรับเสียงได้รอบทิศทาง พร้อมกับ Directional Audio ปรับเสียงตามตำแหน่งที่กล้องหันไป ในขณะที่ GoPro 9 ประกอบด้วยไมค์ 3 ตัวอยู่ด้าน ด้านหน้า และด้านล่าง

👉🏼 GoPro Hero 9: Internal Mic. ไมค์ 3 ตัว + ระบบตัดเสียงลม

👉🏼 DJI Pocket 2: Internal Mic. ไมค์ 4 ตัว + Directional Audio + Audio Zoom + ระบบตัดเสียงลม

ระบบติดตามวัตถุ/ใบหน้า (Tracking)

ระบบติดตามวัตถุ/ใบหน้า (Tracking)

อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นจุดแตกต่างอย่างชัดเจนเลยก็คือ ระบบติดตามหรือ Tracking นั่นเอง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบอีกข้อของ DJI Pocket 2 ด้วยความที่เป็นกล้องกิมบอล ดังนั้นตัวกล้องจึงสามารถหมุนไปมาได้ ติดตามใบหน้าและวัตถุได้แม่นยำ ไม่หลุดเฟรมแน่นอน ซึ่งฟีเจอร์นี้ยังไม่มีใน GoPro Hero 9

Waterproof

Waterproof

คิดว่าข้อนี้น่าจะทำให้หลายๆคนตัดสินใจได้ดีเลยทีเดียว เพราะเป็นจุดที่ทำให้กล้องทั้งสองตัวแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ในความเป็น Action Camera ของ GoPro ก็จะได้เปรียบเรื่องความแข็งแรง ทนทาน กันน้ำได้ลึกถึง 10 m โดยไม่ต้องใส่ Housing หรืออุปกรณ์เสริมใดๆ ก็จะตอบโจทย์สำหรับสายลุย

ส่วน DJI Pocket 2 จะเน้นในเรื่องของกันสั่น ความเป็นกล้องกิมบอล ขนาดเล็ก มากความสามารถ เหมาะกับไลฟ์สไตล์ทั่วไป ตัวกล้องไม่สามารถกันน้ำได้ ต้องอาศัยเคสกันน้ำ

การใช้งานกับสมาร์ทโฟน

การใช้งานกับสมาร์ทโฟน

👉🏼 GoPro Hero 9: เชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพลิเคชั่น GoPro

👉🏼 DJI Pocket 2: สามารถเชื่อมต่อได้ 2 วิธี

1.เชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟนผ่านแอพลิเคชั่น DJI Mimo

2.เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วย Type – C / Lightning

Battery

Battery

👉🏼 GoPro Hero 9: ความจุ 1720 mAh

– Battery Life 131 min.

– สามารถถอดเปลี่ยนได้

– รองรับการชาร์จผ่าน USB-C

👉🏼 DJI Pocket 2: ความจุ 875 mAh

– Battery Life 140 min.

– ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้

– รองรับการชาร์จผ่าน USB-C

ราคา

ราคา

👉🏼 GoPro Hero 9 Black: 15,999 (Bundle Set 17,000)

สั่งซื้อได้ที่ https://www.digital2home.com/gopro-hero9-black

(Bundle Set: https://www.digital2home.com/gopro-hero9-bundle-set )

👉🏼 DJI Pocket 2: 11,990 (Creator Combo Set 16,990)

สั่งซื้อได้ที่ https://www.digital2home.com/dji-osmo-pocket-2

(Creator Combo Set: https://www.digital2home.com/dji-osmo-pocket-2-creator-combo )

Review GoPro Hero 9 Black (เจาะลึกการใช้งาน + ทดสอบกันสั่นทุกรูปแบบ)

Review GoPro Hero 9 Black (Vlog Edition)

Unbox GoPro Hero 9 Black