สาวกกล้อง Fujifilm อดใจรออีกไม่นานแล้วนะครับ
กำลังจะวางตลาดในอีกไม่ช้า หลังจากที่ Fujifilm ได้เปิดตัว XT- 4 ออกมา เป็นกล้องที่มีขีดความสามารถทางด้านถ่ายภาพนิ่ง และบันทึกวีดิโอได้ดีเยี่ยม ตอบสนองความต้องการในระดับที่มืออาชีพเขานำไปใช้งานกัน
X-T4 กล้องตระกูล X Series มาพร้อมกับเซนเซอร์ X-Trans CMOS 4 ตัวประมวลผล X-Processor 4 และยังมีการพัฒนาในเรื่องของระบบป้องกันตัวกล้องสั่น (IBIS) ขณะเดียวกันยังมีฟีเจอร์ใหม่ Film Simulation ที่จะมาช่วยในเรื่องการปรับสีภาพให้มีความสวยงามโดดเด่น ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ไม่ต้องนำไปแต่งภาพให้เมื่อย
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมายที่จะทำให้ต้องประทับใจ โดยกล้องรุ่นนี้จะสามารถสร้างความประทับใจให้กับช่างภาพนิ่ง และวีดิโอ อย่างมืออาชีพ ไปดูกันเลยครับ
สเปคเด่นของกล้อง FUJI XT4
เซ็นเซอร์ X-Trans CMOS IV ความละเอียด 26.1 ล้านพิกเซล พร้อมระบบประมวลผล X-Processer Pro
ระบบกันสั่นในตัวเครื่อง ลดความเร็วชัตเตอร์ ได้ 6.5 Stops (NEW)
บันทึกถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงสุด 4K 60P 4:2:0 10 บิด และผ่านช่อง HDMI 4K/60P 4:2:2 10 บิต
หน้าจอ EVF ความละเอียด 3.69 ล้านพิกเซล อัตราขยาย 0.75x
หน้าจอทัชสกรีนขนาด 3 นิ้ว ปรับได้ทุกทิศทาง ความละเอียด 1.62 ล้านพิกเซล
Film Simulation ที่เพิ่มเข้ามาคือ ETERNA BLEACH BYPASS ใช้ได้กับทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ (NEW)
ช่องเสียบไมค์โครโฟนและหูฟัง
การเชื่อมต่อ Wi-Fi, Bluetooth 4.2
แบตเตอรี่ NP-W235 (NEW)
รองรับ SD Card 2 ช่อง
Film Simulation ตัวใหม่ไฉไลกว่าเดิม
Film Simulation สีใหม่ที่มีใน X-Pro 3 ยังไม่มี คือ ETERNA Bleach Bypass ให้สีแบบถ่ายหนังเลยใช้ได้ทั้งโหมดภาพนิ่งและวีดีโอ อารมณ์ของสีนี้คล้ายกับ ภาพยนตร์ยกตัวอย่างเช่น เรื่อง 300 ทีนี้หละช่างภาพสาย Cinematic ก็ไม่ต้องไปแต่งสีให้เมื่อยตุ้มแล้ว
กำหนดลักษณะสีของภาพ
“ETERNA Bleach Bypass” โดยภาพจะมีส่วนดำมากๆ และขาวมากๆ (High-Contrast) ขณะเดียวกันยังช่วงเก็บรักษาระดับความอิ่มตัวของสีให้ตํ่า ในส่วนของการถ่ายภาพยนตร์จะมีเทคนิคที่เรียกว่า “Bleach Bypass” ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากๆ
สำหรับบรรดาโปรดิวเซอร์งานภาพยนตร์
มีความฉลาดและง่ายขึ้น ในเรื่องของ ปรับสมดุลสีขาวแบบอัตโนมัติ
สำหรับโหมดปรับสมดุลสีขาวอัตโนมัติ (AWB) สามารถทำได้ด้วยการตั้งค่า “AUTO” เพิ่มขึ้นมาใหม่ล่าสุด “White Priority” หรือ “Ambience Priority”โดยกล้องจะเลือกสีขาวสว่างจ้าเมื่อมีการตั้งค่าที่ “White Priority” และสีขาวแบบวอร์ม ไวท์ เมื่อมีการตั้งค่า “Ambience Priority”
ช่างภาพสายกีฬาไม่ต้องห่วง X-T4 มีระบบออโต้โฟกัส ที่ตอบสนองความต้องการไม่ทำให้ท่านพลาดแม้เพียงเสี้ยววินาที
ช่างภาพมืออาชีพจำเป็นต้องถ่ายภาพ ทุกช่วงๆ จังหวะเวลา โดยงานนี้ X-T4 มีระบบออโต้โฟกัสที่ทำงานได้รวดเร็วประมาณ 0.02 วินาที และถ่ายต่อเนื่อง ได้ถึง 15 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้ชัตเตอร์กลไก ให้ความแม่นยำกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นการพัฒนาในส่วนของอัลกอริธึ่มของระบบออโต้โฟกัสที่ผสมผสานกับเซนเตอร์ X-Trans CMOS 4 และตัวประมวลผลภาพ X Processor 4 ทำให้งานที่ออกมามีคุณภาพระดับมืออาชีพ
โฟกัสในที่แสงน้อยก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับกล้องตัวนี้
X-T4 มีระบบที่รวดเร็วมาจากเซนเตอร์ X Trans CMOS 4 ซึ่งเป็นแบบ Back-Illuminated และมีฟีเจอร์ตรวจจับความเปรียบต่างของแสงระหว่างแสงที่ไป (Phase Detection) ตลอดทั้งตัวเซนเซอร์ ผสมกับอัลกอริธึมแบบออโต้โฟกัสรุ่นใหม่รวมทั้งตัวประมวลผล X Processor 4 สามารถออโต้โฟกัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะอยู่สถานที่ที่มีแสงน้อย รวมทั้งยังมีโหมดจับภาพที่ใบหน้า/ดวงตา และยังมีการจับภาพเคลื่อนไหวที่รวดเร็วต่อความต้องต้องการ ในที่แสงน้อยได้
ติดตามวัตถุที่ต้องการแบบอัตโนมัติ
ในส่วนของ Tracking AF ติดตามวัตถุ มีการพัฒนาขึ้นมาก โดยระบบการทำงานตัวใหม่จะจดจำ สีของวัตถุเพื่อแจ้งให้ได้รู้ และทำการล็อกเป้าวัตถุที่ต้องการ จากนั้นก็จะติดตามวัตถุนั้นไปเรื่อยๆ เพื่อทำให้สามารถรักษาการโฟกัสได้อย่างแม่นยำ
และรวดเร็ว
ตัวแบบอยู่นิ่งๆไม่ต้องพูด ตัวแบบเคลื่อนไหวนี่สิ ออโต้โฟกัสตามจิกใบหน้าและดวงตา ในขณะตัวแบบเคลื่อนที่ ยังทำงานได้ดีเยี่ยม
โฟกัสใบหน้า/ดวงตา มีการอัพเดทมากขึ้น และทำงานได้ดียิ่งขึ้นขณะที่ถ่ายภาพต่อเนื่องโดย X-T4 สามารถจับภาพที่ใบหน้า และดวงตาเมื่อวัตถุที่ต้องการมีการเคลื่อนไหวไปรอบๆ เฟรม ที่สำคัญระบบออโต้โฟกัสยังทำงานได้ดีแม้อยู่ที่ที่มีแสงน้อย
ข้อนี้รัวยังกะปืนกลแน่นอนเมื่อ XT 4 ภาพต่อเนื่อง ได้ถึง 15 ภาพต่อวินาที และสามารถถ่ายรัวๆ 8 ภาพต่อวินาที
ม่านชัตเตอร์โฟกัสรุ่นใหม่เป็นมีความโดดเด่นมากสำหรับกล้องรุ่น X-T4 ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 15 ภาพต่อวินาที และสามารถถ่ายรัวๆ 8 ภาพต่อวินาทีใช้ร่วมกับ Live View ขณะเดียวกันหากใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ คุณสามารถถ่ายภาพได้ถึง 30 ภาพต่อวินาที แต่คุณภาพของภาพก็มีการคร็อปลง เหลือ 16 ล้านพิกเซล ซึ่งยังเพียงพอกับการนำไปใช้งาน
ความแข็งแรงทนทาน ทำงานภายใต้สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ 10 องศาเซลเซียส
กล้องถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น หรือความชื้น ที่สำคัญสามารถทำงานภายใต้สภาพอากาศที่มีอุณหภูมิติดลบ 10 องศาเซลเซียส
ระบบกันภาพสั่นไหว
Fujifilm X-T4 ใช้แม่เหล็กแทนที่จะใช้สปริงทำให้ Gyro Sensor หรือเซ็นเซอร์ที่มีไว้สำหรับตรวจจับลักษณะการหมุนของกล้อมมีประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยให้ความแม่นยำในการถ่ายภาพได้สูงกว่ารุ่น X-H1 ถึง 8 เท่า ที่สำคัญยังรองรับการสั่นไหวสามารลดความเร็วชัตเตอร์ ได้ 6.5 Stops (6.5 Stops ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ร่วมด้วย)
6.5 Stops ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่ใช้ร่วมด้วย
หน้าจอ LCD และช่องมอง EVF
สำหรับกล้องรุ่นนี้มีโหมด Boost สามารถเปลี่ยนการทำหน้าที่จากหน้าจอ LCD และ EVF ให้สอดคล้องกับสิ่งที่จะถ่าย นอกจากนี้โหมด “Luminance Priority ” ยังสามารถจับวัตถุที่ต้องการแม้จะอยู่ในช่วงที่มีแสงน้อย ขณะเดียวกันโหมด
“Resolution Priority” จะทำให้ได้เห็นรายละเอียดที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
แบตเตอรี่ใหม่ NP-W235 ทนทานใช้ได้ยาวนาน
X-T4 ใช้แบตเตอรี่ NP-W235 ถ่ายภาพได้ 500 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้งเมื่อใช้ในโหมดทั่วๆ ไป และสามารถถ่ายภาพได้ 600 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้งในโหมด Economy หรือโหมดประหยัดพลังงาน หากใช้แบต 3 ก้อนโดยอีก 2 ก้อนมาจากตัวกริป (อีกก้อนเป็นของกล้อง) ถ่ายภาพได้ 1,700 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง แน่นอนครับเหมาะสำหรับมืออาชีพที่นำไปใช้งานหนักๆอย่างต่อเนื่อง
คุณสมบัติด้านการถ่ายวีดิโอ
Fujifilm X-T4 ไม่ได้เด่นในเรื่อง ถ่ายภาพเท่านั้น แต่รวมถึงการถ่ายวีดิโอแบบ Full HD 240P ถ่ายภาพแบบสโลโมชั่นได้ถึง 10 เท่า โดยกล้องรุ่นนี้ยังมีระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอัตโนมัติ (DIS) และ ระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั่วไป (IS) โดยระบบป้องกันภาพสั่นไหวทั้ง 2 แบบจะใช้งานร่วมกับระบบป้องกันการสั่นได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้ การถ่ายวีดิโอโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ไม้กันสั่นหรือว่า Gimbal หรืออุปกรณ์เสริมอื่นๆรูป
โหมดถ่ายภาพยนตร์แบบใหม่
สำหรับ XT-4 สามารถสลับเปลี่ยนระหว่างการถ่ายภาพ และการถ่ายภาพยนตร์ได้แบบไม่สะดุด นอกจากนี้ยังบันทึกวีดิโอด้วยเมนู Quick Menu (Q Menu) ควบคุมในขณะที่ถ่ายวีดิโอโดยการทัชกรีน หรือใช้ปุ่มคำสั่งด้านหน้า/หลังก็ได้
บันทึกวีดิโอแบบมืออาชีพ Fujifilm X-T4 บันทึกวีดิโอด้วยการผ่านช่อง HDMI 4K/60P 4:2:2 10 บิต หรือการบันทึกจากภายในตัวกล้องจะอยู่ที่ 4K/60P 4:2:0 10 บิต เหมือนกับในรุ่น X-T3 เพราะมีการรองรับ H.264/MPEG-4 AVC และ H.265/HEVC ซึ่งจะทำให้มีอัตราการบีบอัดภาพที่สูงขึ้น เมื่อมีการบันทึกวีดิโอแบบ 4K/60P 4:2:0 10 บิต จะมีอัตราอยู่ที่ 200 Mbps
ถ่ายวีดิโอได้นิ่งมากยิ่งขึ้น
เมื่อนำไปถ่ายวีดิโอ สามารถเลือก ระบบกันสั่น IBIS และระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบอัตโนมัติ (DIS) ซึ่งจะทำให้กล้องมีเสถียรในการถ่ายวิดีโอมากยิ่งขึ้น ระบบนี้ยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นเมื่อกำลังถ่ายวีดิโอใขณะที่ต้องเดินไปด้วย
รองรับการบันทึกได้ดีเยี่ยม
สำหรับกล้อง Fujifilm X-T4 สามารถบันทึกวีดิโอแบบ 2 เมมโมรี่การ์ด ได้ในเวลาเดียวกัน
บทสรุปความเรื่องความแตกต่าง
สิ่งที่ X-T3 และ X-T4 และ XH1 มีเหมือนกัน ?
- เซ็นเซอร์ CMOS BSI ขนาด 26.1MP APS-C X-Trans IV
- เอ็นจิ้นอิมเมจ X-Processor 4
- ISO 160 ถึง 12800, ดึง 80 แล้วกด 51200 (ค่าเพิ่มเติม)
- การบันทึกวิดีโอ 4K สูงสุด 60p, F-Log, HLG
- ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 30fps ด้วยชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์
- 1/8000s (ชัตเตอร์เชิงกล) และ 1 / 32000s (ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์) ความเร็วชัตเตอร์ 15 นาที (โหมด T)
- EVF ที่มีจุด 3.68M และอัตราการรีเฟรช 100fps
- การซีลป้องกัน ฝุ่น ละอองนํ้า และอากาศ
- สองช่องเสียบการ์ด SD (ทั้ง UHS-II)
- Wi-Fi และ Bluetooth
- พอร์ต USB Type C พร้อมการชาร์จและการจ่ายไฟ
XT 4 และความแตกต่างๆ จากรุ่นอื่นๆ
XT 4 เพิ่มระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบห้าแกน 5 Stop ละสามารถทำได้ สูงสุด 6.5 Stop XH-1 ก็มีกันสั่นเหมือนกัน แต่ XT-4 แม่นยำกว่ารุ่น X-H1 ถึง 8 เท่า
- X-T4 ใช้แบตเตอรี่ NP-W235 สามารถใช้ถ่ายภาพได้ 500 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้งเมื่อใช้ในโหมดทั่วๆ ไป และสามารถถ่ายภาพได้ 600 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ในโหมดประหยัดพลังงาน หากใช้แบต 3 ก้อนโดยอีก 2 ก้อนมาจากตัวกริป (อีกก้อนเป็นของกล้อง) ยิ่งถ่ายภาพได้มากกว่า 1,700 ภาพต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
- มีกริ๊ปแบตเตอรี่ใหม่ที่ออกแบบมาสำหรับกล้องใหม่ VG-XT4 เพื่อรองรับแบตเตอรี่ NP-W235 สองก้อน
- การชาจน์แบตสามารถชาจน์ตรงเข้าสู่ตัวกล้องได้เลย (ในกล้องไม่มีแท่นชาจน์) แท่นชาจน์มีขายเป็น Accessories เสริมสามารถชาจน์แบต NP-W235 ได้ถึง 2 ก้อน
- ขนาดที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย X-T3: 132.5 x 92.8 x 58.8 มม. 539 กรัม
X-T4: 134.6 x 92.8 x 63.8 มม. 607 กรัม (เพราะแบตขนาดใหญ่ขึ้น) - Grip จับใหญ่ขึ้นเล็กน้อย
- ปรับย้ายปุ่ม โหมด สวิตซ์ แยกถาพนิ่ง กับ วีดีโอ
- ในโหมด Film Simulation ที่เพิ่มเข้ามาคือ ETERNA BLEACH BYPASS
- (AWB) ทำได้ด้วยการตั้งค่า “AUTO” เพิ่มขึ้นมาล่าสุด “White Priority” หรือ “Ambience Priority”
สรุป
ถ้าใครทำกำลังหากล้องรับงานวีดีโอหรืองานถ่านภาพนิ่งสมารถซื้อได้เลยเพราะแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นถ่ายได้เยอะขึ้น กันสั่นที่เซ็นเซอร์ช่วยในงานวีดีโอเป็นอย่างมาก ซื้อแล้วรับงานได้ทั้งสองอย่างเลย หรือถ้าเป็นคนที่ชอบใน Fujifilm แต่ไม่ได้รับงาน ก็สามราถซื้อไปใช้ได้เช่นกันเพราะเรื่องคุณภาพถึงขนาดรับงานได้หายห่วงเลยครับ จะช่วยทำให้คุณถ่ายรูปแบบมีความสนุขมากขึ้นแน่นอน